ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ ข้อควรรู้ก่อนทำและคนกลุ่มไหนที่ควรหลีกเลี่ยง?

ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ เชื่อว่ายังมีอีกหล่ยคนสงสัยว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ เพราะในปัจจุบันหลาย ๆ คนหันมาสนใจการล้างลำไส้ด้วยการดีท็อกซ์กันมากยิ่งขึ้น แต่หลายคนก็ยังสงสัยในเรื่องของผลข้างเคียงดีท็อกซ์ เพราะการดีท็อกซ์เป็นการล้างลำไส้ที่จะมีของเสีย หรือสิ่งสกปรกตกค้างอยู่มากมาย ด้วยการล้างออกมาทางอุจจาระนั่นเอง แม้ว่าปกติแล้วร่างกายของเราจะขับของเสียออกมาทั้งทางอุจจาระและปัสสาวะในทุก ๆ วัน แต่ของเสียบางประเภทร่างกายก็ไม่สามารถนำออกมาได้ด้วยตนเอง เนื่องจากร่างกายของเราอาจจะไม่มีกากใยมากเพียงพอต่อการขับของเสีย

ดังนั้น การดีท็อกซ์จึงเป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะช่วยขับของเสียออกมาได้ทั้งหมด โดยไม่มีของเสียตกค้างอยู่ในร่างกายนั่นเอง ทั้งนี้วิธีการดีท็อกซ์ในปัจจุบันจะมีให้เลือกหลากหลายวิธี ทั้งการดีท็อกซ์ตามธรรมชาติ การดีท็อกซ์ทางการแพทย์ และการเลือกซื้อดีท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุดในตลาด ที่เรียกได้ว่าทุกคนสามารถเลือกวิธีการต่าง ๆ ได้ตามความต้องการและความเหมาะสมเลยทีเดียว

ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ เราจำเป็นต้องดีท็อกซ์ลำไส้หรือไม่

ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ เรียกได้ว่าแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ เพราะเชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนจะต้องกังวลในเรื่องท้องผูก ท้องอืด หรือไม่สามารถขับถ่ายได้อย่างสะดวก ส่งผลให้การดีท็อกซ์ลำไส้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากการดีท็อกซ์จะเข้าไปช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ช่วยแก้ปัญหาท้องอืด แถมยังสามารถลดหน้าท้องได้อีกด้วย ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย จะต้องห้ามมองข้ามการดีท็อกซ์เลยทีเดียว

ทั้งนี้ในปัจจุบันการดีท็อกซ์ลำไส้จะมีให้เลือกหลากหลายวิธีด้วยกัน ทั้งวิธีการดีท็อกซ์แบบธรรมชาติ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดการรับประทานอาหารหนัก หันไปรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่น การดื่มน้ำอุ่นและมะนาวผสมเข้าด้วยกัน หรือการดื่มเม็ดแมงลัก 2 ช้อนผสมกับน้ำอุ่น ที่จะเป็นการกระตุ้นระบบขับถ่าย และช่วยเข้าไปล้างลำไส้ให้แก่เราได้ดีที่สุด

และนอกจากนี้การดีท็อกซ์ที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายอีกหนึ่งวิธี คือ การอดอาหารนั่นเอง ซึ่งการดีท็อกซ์ด้วยการอดอาหาร จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน แต่จะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมากที่สุด เพราะจะสามารถดื่มได้เฉพาะน้ำเปล่า และน้ำผลไม้แท้ เพื่อให้ร่างกายของเรากระตุ้นระบบขับถ่ายนำของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ หรือผนังลำไส้ออกมาทั้งหมด

โดยการดีท็อกซ์แบบอดอาหารนั้น อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการดีท็อกซ์ประมาณ 1-2 วันด้วยกัน ที่จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารลดการสะสมของเสียในลำไส้ แต่หากดีท็อกซ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะกลับมารับประทานอาหารได้ดังเดิม แต่ก็ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ มีอันตรายอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ หลายคนอาจจะมองว่ากอันตราย ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่า การดีท็อกซ์ลำไส้จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียเลยทีเดียว ซึ่งข้อดีของการดีท็อกซ์ลำไส้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้นกว่าเดิม ลำไส้ของเราจะสะอาดมากที่สุด เพราะการดีท็อกซ์จะเข้าไปทำความสะอาดลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารของร่างกายได้มากกว่าเดิม และที่สำคัญจะช่วยให้พุงยุบได้ไม่ยาก

แต่ทั้งนี้เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียด้วยเช่นกัน เพราะหากใครที่เลือกวิธีดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการสวนลำไส้ จะต้องกระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากทำการสวนลำไส้ด้วยตนเองอาจจะสวนได้อย่างไม่ถูกต้อง และก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บที่รูทวารได้ หรืออาจจะเกิดการติดเชื้อได้เลยทีเดียว และการดีท็อกซ์ด้วยการสวนทวารบ่อย ๆ อาจจะทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกายของเรา ไม่สามารถทำงานได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องพึ่งการสวนทวารเพื่อขับถ่ายอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถขับถ่ายเองได้อีกต่อไป

และนอกจากนี้การดีท็อกซ์บ่อย ๆ หรือการทำดีท็อกซ์ทุกวัน จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป จนอาจจะก่อให้เกิดการช็อค และมีความเสี่ยงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว หรือหากใครที่ดีท็อกซ์มากเกินความจำเป็น ยังเข้าไปลดปริมาณของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ได้อีกด้วย และหากร่างกายของเราขาดแบคทีเรียในกลุ่มดีที่อยู่ในลำไส้นั้น จะส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการส่งผลถึงระบบการย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกันเชื้อโรค เป็นต้น ทำให้ร่างกายไม่สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ดีจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปได้น้อยลง

และที่สำคัญหากใครต้องการดีท็อกซ์ลำไส้ แต่มีโรคประจำตัวหรือต้องรับประทานยาเป็นประจำ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ให้ดีเสียก่อน เพราะบางโรคจะไม่สามารถดีท็อกซ์ได้ อย่างเช่น โรคที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ โรคความดันโลหิตสูง เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยช่องท้องอักเสบ รวมทั้งผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลียด้วยเช่นกัน

พฤติกรรมแบบไหน ที่เสี่ยงต่อการมีอุจจาระเข้าไปสะสมในลำไส้มากที่สุด

ทุกคนรู้หรือไม่ว่า การที่ร่างกายของเรามีของเสีย หรือสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมในลำไส้เป็นจำนวนมาก จนทำให้เราต้องเลือกใช้วิธีกินไฟเบอร์ดีท็อกซ์นั้น จะมีความอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวได้เลยทีเดียว เพราะหากเรามีของเสียหรือมีอุจจาระตกค้างในร่างกาย หรือติดตามผนังลำไส้เป็นเวลานาน ๆ อุจจาระเหล่านั้นจะติดแน่นและไม่หลุดออกไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะมีอุจจาระของใหม่เข้าไป แต่ของเก่าที่ติดอยู่ก็ไม่สามารถดันให้ออกมาได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดีท็อกซ์ลำไส้ เพื่อช่วยให้อุจจาระหรือของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ออกมาได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งผู้ที่มีของเสียหรืออุจจาระตกค้างอยู่ในลำไส้นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่มีพฤติกรรมเคี้ยวข้าวไม่ละเอียด เคี้ยวข้าวอย่างรวดเร็ว จึงทำให้อาหารมีขนาดใหญ่และทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สามารถย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร รวมทั้งผู้ที่รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ทำให้ลำไส้ไม่มีกากใยเพื่อช่วยย่อยอาหารได้นั่นเอง ทั้งนี้การขับถ่ายอุจจาระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การขับถ่ายในช่วงเวลาประมาณ 05.00-07.00 น.

ดังนั้นหากใครที่ขับถ่ายหลังจากเวลานี้ อาจจะขับถ่ายได้ยากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาในเรื่องการขับถ่ายนาน ๆ จนไม่สามารถขับถ่ายได้แบบปกติ ควรเลือกการดีท็อกซ์ลำไส้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร่างกายสามารถกลับมาขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ ที่อาจเกิดขึ้นจากการล้างลำไส้

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันการขจัดสารพิษ หรือสิ่งสกปรกที่อยู่ในลำไส้ด้วยการดีท็อกซ์นั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะถือเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยขจัดสารพิษและของเสียในลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีวิธีในการดีท็อกซ์ที่หลากหลาย โดยส่วนใหญ่แล้วคนมักจะเลือกวิธีการดีท็อกซ์ด้วยการสวนลำไส้ เนื่องจากเป็นการแพทย์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการขจัดของเสียได้ดีที่สุด โดยการดีท็อกซ์จะเป็นการนำของเสียและสิ่งสกปรกที่อยู่ในลำไส้ หรือผนังลำไส้ออกมาได้อย่างรวดเร็ว

อีกทั้งหลังการทำดีท็อกซ์แบบสวนลำไส้จะช่วยให้ลำไส้ของเราสะอาด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และยังสามารถแก้ปัญหาท้องผูกได้อีกด้วย แต่วิธีการดีท็อกซ์ลำไส้แบบสวนทวารเข้าไป จะต้องกระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเดียวเท่านั้น เพราะจะต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางสอดเข้าไปทางรูทวาร และฉีดน้ำหรือสารบางชนิดเข้าไป เพื่อทำความสะอาดลำไส้และช่วยกระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายนั่นเอง แต่ดีท็อกช่วยอะไรอาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงเฉพาะบุคคล ที่ทุกคนจำเป็นต้องศึกษาเอาไว้ก่อน เพื่อเป็นตัวช่วยตัดสินใจก่อนทำดีท็อกซ์ ซึ่งจะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

• อาจจะทำให้ระบบขับถ่ายแปรปรวนได้ง่าย และอาจจะไม่สามารถขับถ่ายได้เองตามปกติ เพราะบางคนเมื่อทำดีท็อกซ์ลำไส้แล้ว จะต้องพึ่งการดีท็อกซ์ลำไส้ไปตลอด
• การดีท็อกซ์ลำไส้ทำให้ร่างกายของเราสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมาก รวมทั้งแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ในร่างกายด้วยเช่นกัน จนอาจจะก่อให้เกิดความดันโลหิตต่ำ จนบางคนอาจจะเกิดอาการช็อคได้เลยทีเดียว หรือหากร้ายแรงที่สุดอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นในส่วนนี้จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ให้ดีเสียก่อน เพื่อดีท็อกซ์ลำไส้ได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด
• การดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการสวนท่อเข้าไปนั้น จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากอุปกรณ์ที่ใช้สอดเข้าไป อีกทั้งยังก่อให้เกิดบาดแผลทางรูทวารด้วยเช่นกัน ดังนั้นจำเป็นต้องเลือกสถานที่ในการดีท็อกซ์อย่างดี เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากกว่าเดิม
• การดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการสวนท่อเข้าไปทางรูทวาร จะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคลำไส้อักเสบ ลำไส้ทะลุ หรือโรคมะเร็งลำไส้ รวมทั้งผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและต่ำกว่าปกติ ผู้ที่มีภาวะไตวายหรือภาวะเกลือแร่ภายในร่างกายทำงานผิดปกติ เด็กและสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ก็ไม่ควรดีท็อกซ์เช่นเดียวกัน เพราะอาจจะก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกายได้มากที่สุด

แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อผลข้างเคียงในการดีท็อกซ์นั้น สามารถเลือกวิธีการดีท็อกซ์แบบธรรมชาติได้เช่นกัน อย่างเช่น การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง หรือการกินดีท็อกซ์ทุกวัน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายและช่วยให้ได้ประโยชน์ของดีท็อกซ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทดีท็อกซ์จำหน่ายอยู่มากมาย มีประสิทธิภาพในการเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ให้เราสามารถขับถ่ายได้ง่ายยิ่งขึ้น และยังช่วยล้างลำไส้จากภายในสู่ภายนอกได้อย่างดี ช่วยให้ลำไส้ของเราสะอาดได้โดยไม่ต้องสวนท่อเข้าไป และที่สำคัญจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายของเราอย่างแน่นอน

ผลข้างเคียงดีท็อกซ์ เห็นเลยเลยว่าหากทำอย่างถูกวิธีก็แทบจะไม่มีอันตรายต่อร่างกายของคุณเลย ซึ่งการดีท็อกซ์ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการทำงานภายในร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทั้งระบบการดูดซึมสารอาหารของร่างกาย และระบบการขับถ่าย เพราะเมื่อร่างกายของเราสามารถขับถ่ายได้สะดวกในทุก ๆ วัน ร่างกายของเราก็สามารถดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ เข้าไปได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่เราจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้ได้มากที่สุด และการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง:

ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจ ดีท็อกซ์ลำไส้ เพื่อขจัดสารพิษ ในร่างกาย. https://mw-wellness.com/health/things-to-know-before-deciding-to-colon-detox-eliminate-toxins-in-body