ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะการมีสุขภาพร่างกายที่ดีใคร ๆ ก็อยากจะมีแน่นอน แต่นอกจากที่เราจะต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายในทุกวัน และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การดูแลตนเองจากภายในจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

และการดีท็อกซ์ลำไส้จะเป็นตัวช่วยดูแลระบบภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการดีท็อกซ์ลำไส้เป็นการขจัดของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ หรือบนผนังลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการดีท็อกซ์ลำไส้จะช่วยในเรื่องขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้ได้เป็นอย่างดี และช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่าเดิมอีกด้วย ดังนั้น หากใครที่ต้องการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก การล้างลำไส้ด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดีท็อกซ์และเปรียบเทียบดีท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุด จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว

ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องสนใจสิ่งนี้กันอย่างแน่นอน ซึ่งการดีท็อกซ์นั้นจะเป็นกระบวนการกำจัดสารพิษหรือของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้และผนังลำไส้ให้หมดไป แม้ว่าปกติแล้วร่างกายของเราจะมีการขับของเสียออกมาในทุก ๆ วัน แต่ก็ยังมีของเสียบางประเภทที่ร่างกายไม่มีกากอาหารมากเพียงพอที่จะขับออกมา

ดังนั้น ของเสียเหล่านั้นจะเข้าไปค้างอยู่ที่ลำไส้หรือผนังลำไส้ และหากลำไส้มีของเสียไปค้างอยู่นาน ๆ ก็จะกลายเป็นสารพิษได้ไม่ยาก และโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะได้รับสารเคมีที่เป็นพิษจากสิ่งแวดล้อมที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ รวมไปถึงการรับประทานอาหารต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น สารมลพิษทางอากาศ สารสังเคราะห์ทางเคมี โลหะหนักและสารเคมีชนิดต่าง ๆ

ซึ่งสารต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก และร่างกายของเราจะไม่สามารถขจัดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการดีท็อกซ์ลำไส้จึงเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยนำของเสียและสารพิษต่าง ๆ ออกมาจากร่างกายให้ได้มากที่สุด และในปัจจุบันการดีท็อกซ์จะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งการดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการสวน ดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีกากใยสูง

รวมทั้งการดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการอดอาหารด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีการดีท็อกซ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นการขจัดสารพิษในร่างกายได้เป็นอย่างดี และช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้มากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ช่วยให้ร่างกาย และระบบการทำงานภายในร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม

ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ช่วยได้จริงหรือไม่?

ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ช่วยได้จริงหรือไม่?

ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก มีหลาย ๆ คนสงสัยกันว่าจะช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่? ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่า การดีท็อกซ์จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันว่าการดีท็อกซ์มีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักจริงหรือไม่ แต่จะมีงานวิจัยที่พบว่า หากเราควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดีท็อกซ์ลำไส้อยู่เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

เพราะโดยปกติแล้วหากลำไส้ของเรามีของเสียสะสมอยู่มากมาย จะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากเราต้องการอุจจาระก็ไม่สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากลำไส้มีการสะสมของของเสียอยู่มากมาย จนกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่าย

แต่เมื่อเราดีท็อกซ์ลำไส้แล้ว จะเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยนำของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกายให้ออกมาได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเมื่อของเสียต่าง ๆ ออกมาแล้ว จะส่งผลให้ร่างกายสามารถขับถ่ายได้อย่างปกติ ไม่ทำให้เกิดความอึดอัดท้อง เกิดอาการท้องผูก ทำให้หลายคนเชื่อว่ากินดีท็อกซ์เพื่อลดไขมันได้ และยังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ทั้งนี้ต้องบอกเลยว่าวิธีการดีท็อกซ์ลำไส้ จะมีให้เลือกหลากหลายวิธีด้วยกัน ดังนั้นในส่วนนี้ทุกคนจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดในเรื่องวิธีดีท็อกซ์เสียก่อน เพื่อทำการดีท็อกซ์ได้อย่างถูกต้อง เลือกวิธีดีท็อกซ์ที่เหมาะสมกับร่างกาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดีท็อกซ์ได้มากกว่าเดิม

ดีท็อกซ์ด้วยการรับประทานอาหารอย่างไร ให้ถูกต้องและเหมาะสมมากที่สุด

ดีท็อกซ์ด้วยการรับประทานอาหารอย่างไร ให้ถูกต้องและเหมาะสมมากที่สุด

การดีท็อกซ์ร่างกายไม่ใช่อยากทำก็สามารถทำได้เลย แต่ทุกคนจะต้องมีวิธีการเตรียมตัวดีท็อกลำไส้ ธรรมชาติอย่างถูกต้องและเหมาะมากที่สุด ซึ่งหากดีท็อกซ์ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารนั้น เราจะต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการค่อย ๆ ลดปริมาณอาหารที่ต้องการดีท็อกซ์ โดยเฉพาะอาหารที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ น้ำตาลแท้ น้ำตาลเทียม และไขมันทรานซ์ เป็นต้น

เพราะอาหารเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น หากเราสามารถลดการรับประทานอาหารเหล่านี้ได้แล้ว ค่อย ๆ เพิ่มอาหารที่มีประโยชน์เข้าไป รวมทั้งผักและผลไม้ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ท้องอืด และท้องผูกให้ได้มากที่สุด เพราะหากเรางดรับประทานอาหารที่เคยรับประทานอยู่เป็นประจำเลย จะทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ทันเวลานั่นเอง

รวมทั้งการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ เนื่องจากน้ำจะถือเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกาย โดยเฉพาะในกระบวนการกำจัดของเสีย เพราะการดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่าย แถมยังส่งผลเสียต่อระบบการทำงานในร่างกายอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการดีท็อกซ์ร่างกายง่าย ๆ ด้วยการรับประทานอาหารนั้น ควรเลือกดื่มน้ำให้เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรือตามที่ร่างกายของเราควรจะได้รับ ด้วยการใช้สูตรน้ำหนักตัว/30 จะได้จำนวนน้ำต่อลิตรที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน

ในส่วนของผู้ที่ติดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือน้ำประเภทอื่น ๆ อย่างเช่น น้ำอัดลม หรือน้ำหวาน ควรค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่มลง และหันมาดื่มน้ำเปล่าให้มากที่สุด หรือเลือกกินไฟเบอร์ดีท็อกซ์ เพราะน้ำที่ผสมน้ำตาล หรือมีคาเฟอีนนั้น จะส่งผลต่อระบบขับถ่ายภายในร่างกายได้มากที่สุด แถมยังทำให้เราอ้วนขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

แนะนำสูตร ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ได้ง่าย ๆ ด้วยการรับประทานผักและผลไม้

แนะนำสูตร ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ได้ง่าย ๆ ด้วยการรับประทานผักและผลไม้

การดีท็อกซ์ร่างกายไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีดีท็อกซ์เพื่อสวนลำไส้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการรับประทานอาหารเพื่อช่วยดีท็อกซ์ หรือกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เช่นเดียวกัน เพราะอาหารที่เรารับประทานเข้าไป จะถือเป็นสิ่งสำคัญต่อระบบขับถ่าย หากเราเลือกรับประทานอาหารหนัก ไม่รับประทานผักและผลไม้ ก็ทำให้ร่างกายขับถ่ายได้ยากขึ้นกว่าเดิม

แต่หากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีกากใยสูง หรือเลือกรับประทานผักและผลไม้มากขึ้นกว่าเดิม จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายในร่างกายของเราได้ดีที่สุด รับรองได้เลยว่าจะช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้นแน่นอน เพราะฉะนั้นไปดูวิธีการดีท็อกซ์ลําไส้ด้วยสูตรลดพุง ก่อนนอนกันเลยว่า มีสูตรไหนสามารถกระตุ้นระบบขับถ่ายได้บ้าง

  • น้ำผึ้ง มะนาว โยเกิร์ต นมสด: ถือเป็นสูตรดีท็อกซ์ที่หลาย ๆ คนจะต้องรู้จักกันดีอย่างแน่นอน เพราะน้ำผึ้ง มะนาว โยเกิร์ต และนมสด จะเป็นสูตรที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดี มีรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานถูกใจหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน โดยหากใครที่ต้องการรับประทานดีท็อกซ์สูตรนี้ ควรรับประทานติดต่อกัน 3 วันขึ้นไป ในช่วงเวลาประมาณ 05.30-07.00 น. และก่อนรับประทานดีท็อกซ์ให้ดื่มน้ำเปล่านำก่อนสัก 1-2 แก้ว รับรองได้เลยว่าดีท็อกซ์สูตรนี้จะเข้าไปกระตุ้นระบบการทำงานของลำไส้ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้พุงยุบได้ไม่ยาก
  • น้ำเปล่า เม็ดแมงลัก: สูตรดีท็อกซ์ยอดนิยมสำหรับคนลดน้ำหนักเลยก็ว่าได้ เพราะสูตรนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย เพียงเรานำเม็ดแมงลัก 2 ช้อนชาผสมกับน้ำร้อน 1 แก้ว หลังจากที่เม็ดแมงลักพองตัวเต็มที่แล้วให้นำมาดื่มทันที ทั้งนี้สูตรดีท็อกซ์ด้วยน้ำเปล่าและเม็ดแมงลักควรรับประทานในช่วงก่อนนอนจะดีที่สุด เพราะเม็ดแมงลักมีกากใยอาหารสูงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายแบบอ่อน ๆ ดังนั้นจะมีประสิทธิภาพช่วยในเรื่องการขับของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดีในช่วงเช้า และยังช่วยให้กระเพาะของเราสะอาดได้มากกว่าเดิมอีกด้วย เนื่องจากเมือกของเม็ดแมงลักจะเข้าไปนำของเสียที่อยู่ในกระเพาะอาหารออกมาให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญเม็ดแมงลักจะสามารถดูดซับสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าเดิม
  • เลมอน แตงกวา ใบสะระแหน่ น้ำเปล่า: สำหรับสูตรดีท็อกซ์สูตรนี้ จะเป็นการนำเลมอน 2 ลูก แตงกวาครึ่งลูกมาฝานบาง ๆ และนำใบสะระแหน่มาประมาณ 10-12 ใบมาใส่ในแก้วน้ำหรือโหลแก้ว จากนั้นให้เติมน้ำเปล่าน้ำไปประมาณ 3/4 ถ้วย และนำแก้วน้ำหรือโหลแก้วไปแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 8 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อครบเวลาแล้วให้นำมาดื่มในตอนเช้า ซึ่งดีท็อกซ์สูตรนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกำจัด และชำระล้างของเสียออกจากร่างกายผ่านการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายในตอนเช้าได้อีกด้วย
  • น้ำอุ่น มะนาว: สูตรการดีท็อกซ์ที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงใช้น้ำอุ่นแค่ 1 แก้ว และมะนาวครึ่งลูกเท่านั้น โดยจะผสมน้ำอุ่นและมะนาวให้เข้ากัน จากนั้นให้ดื่มก่อนนอนเป็นประจำทุก ๆ วัน เพราะสูตรนี้จะเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นการทำงานของลำไส้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีกรดและไฟเบอร์จากมะนาวเพื่อเข้าไปช่วยกำจัดสิ่งสกปรก หรือของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ให้ออกมาจากการขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • นมจืด กล้วยน้ำว้า: การดื่มนมดื่มจืด 2 กล่องผสมกับกล้วยน้ำว้า 2 ลูก นำมาปั่นรวมทั้ง จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี โดยดีท็อกซ์สูตรนี้จะสามารถดื่มได้ในตอนเช้าหลังตื่นนอนทันที เพื่อช่วยให้เราสามารถขับถ่ายได้เป็นเวลามากขึ้นกว่าเดิม

ดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก ด้วยการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีกากใยสูง จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดีท็อกซ์ที่ดีที่สุด เนื่องจากร่างกายของเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารในทุก ๆ วัน แต่หากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตั้งแต่แรก นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์กับสารอาหารมากที่สุดแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของร่างกาย และระบบขับถ่ายได้ดีขึ้นกว่าเดิม ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคท้องผูกได้ไม่ยาก

อ้างอิง:

9 สูตร ดีท็อกลดพุง แบบง่ายๆ ช่วยล้างลำไส้ อย่างไรให้ได้ผล!. https://bebefitroutine.com/how-to-detox/

Author

สวัสดีค่ะ ชื่อเล่น แพน นะคะ จบการศึกษาจาก Fashion, Textiles and Technology Institute (FTTI), University of the Arts London ค่ะ เป็นคนชอบติดตามวงการแฟชั่นและเทรนด์การแต่งหน้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้เป็นยังชอบท่องเที่ยว ชอบไปมิวเซียม และออกกำลังกายโดยเฉพาะเล่นโยคะและพีราทิส ในเวลาว่างชอบผ่อนคลายด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม จิบกาแฟอุ่น ๆ ในคาเฟ่

Write A Comment