ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ได้เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลรูปร่างและสุขภาพให้แข็งแรง เพราะหากร่างกายไม่สามารถดึงพลังงานมาใช้ได้เต็มที่ และไม่สามารถขับสิ่งสกปรกในร่างกายออกมาได้ ก็จะทำให้เกิดปัญหาไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะเจอปัญหานั้นกับตัวเอง
โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันนี้ที่มีหนึ่งในปัญหาที่กวนใจทุกคนคงหนีไม่พ้นกับปัญหาน้ำหนักตัวที่ควบคุมไม่อยู่ เพราะยิ่งอายุมากก็ยิ่งมีโอกาสอ้วนมากขึ้น เนื่องจากความสามารถในการเผาผลาญไขมัน และการดึงพลังงานมาใช้ของร่างกายต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม และไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปจากเดิมมากนัก แต่ก็ไม่อาจจะรับประกันได้ว่าน้ำหนักตัวจะเท่าเดิม ในบทความชิ้นนี้จะพาคุณไปรู้จักกับไฟเบอร์ดีท็อกซ์ และผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ เพื่อให้คุณสามารถเลือกรับประทานกันได้ตามความเหมาะสมกัน
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ คืออะไร ทำไมต้องเริ่มทานตั้งแต่ตอนนี้
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ คือกากใยอาหารที่ช่วยในการล้างสารพิษ และทำความสะอาดร่างกายให้คลีน เหมาะอย่างมากกับผู้ที่มีปัญหาร่างกายในส่วนของระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย กับกลุ่มผู้ที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอาการท้องผูก หรือท้องอืดอยู่บ่อย ๆ
จริง ๆ แล้วไฟเบอร์ดีท็อกซ์เป็นสิ่งที่สามารถหารับประทานได้ในผัก และผลไม้ แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันที่เร่งรีบ และไม่เหลือเวลาให้มานั่งคัดเลือกผลไม้สำหรับทาน ทำให้เกิดกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ที่มีฤทธิ์ในการระบายท้องอ่อน ๆ ได้เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ดีหากคุณกำลังมองหาไฟเบอร์ดีท็อกซ์ อยากแนะนำให้เริ่มลองจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และเลือกรับประทานอาหารจำพวกผัก และผลไม้เสียก่อน นี่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันการตกค้างของสารเคมี และสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะอยู่ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ช่วยอะไร?
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ นอกจากการช่วยเพิ่มความคล่องในการขับถ่ายแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมาก เพื่อให้คุณได้รู้ถึงข้อดี และคลายความสงสัยในประเด็นไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ช่วยอะไรได้บ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลย ดังนี้
- จัดการปัญหาท้องผูก ขับถ่ายง่าย
- เพิ่มใยอาหาร ทำให้ก้อนอุจจาระไม่แข็ง หรือแห้งเกินไป
- ลดน้ำหนักตัวได้ เพราะไฟเบอร์ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
- ลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะลำไส้ได้ถูกทำความสะอาดอย่างต่อเนื่อง
- ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานดีขึ้น ทำให้ป่วยยากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นข้อดีบางส่วนเท่านั้นจากการรับประทานไฟเบอร์หรือการดีท็อกซ์ล้างลําไส้ เพราะการที่ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเต็มที่ ก็เป็นการช่วยเหลือให้ระบบอื่น ๆ ของร่างกายให้ทำงานได้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทุกระบบล้วนทำงานต่อจากกัน การที่ระบบส่วนใดส่วนหนึ่งทำงานได้ตามปกติ ก็ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างสมดุลนั้นเอง
ใครบ้างที่ไม่ควรทานไฟเบอร์
การรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์เป็นเรื่องดี เมื่อระบบขับถ่ายมีปัญหานี่เป็นสัญญาณที่อันตราย และอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก ทุกคนสามารถรับประทานไฟเบอร์ได้ หากรู้สึกว่าระบบขับถ่ายมีปัญหา, ขับถ่ายยาก, อุจจาระแข็ง และแห้งเกินไป หรือเริ่มท้องผูกจนอุจจาระลำบาก
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าไฟเบอร์ดีท็อกซ์อันตรายไหม คนท้องทำดีท็อกซ์ได้ไหม ? คำตอบคือ ไม่ แต่การรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์ก็มีข้อยกเว้น และมีบางกลุ่มคนที่ไม่เหมาะจะรับประทานไฟเบอร์เช่นเดียวกัน เพราะอาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน หรือทำให้สภาวะของร่างกายอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม จะมีใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการทานไฟเบอร์ ไปเช็กลิสต์กับรายการข้างล่างได้เลย
- ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดลำไส้มาได้ไม่นาน
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ตัวอย่าง โรคระบบทางเดินอาหารอักเสบเรื้อรัง, โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ หรือลำไส้อักเสบ
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
- ผู้ที่เป็นโรคไต
หากคุณกำลังเป็นหนึ่งในโรคที่เพิ่งกล่าวถึงไปนั้น อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับการดีท็อกซ์ด้วยไฟเบอร์ อย่างไรก็ดีหากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญกับท้องผูก หรืออุจจาระแข็งที่ยากต่อการขับถ่าย เข้าพบแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษาในวิธีแก้ไขปัญหาให้แน่ใจก่อนว่าการรับประทานไฟเบอร์เพื่อดีท็อกซ์ร่างกายจะเป็นทางเลือกที่ดี และปลอดภัยกับคุณได้มากที่สุด
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ควรกินตอนไหน
การรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์นั้นมีช่วงเวลาที่ทางการแพทย์แนะนำอยู่ โดยการกินไฟเบอร์หรือกินดีท็อกซ์เวลาไหน ในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับมากที่สุดคือ ช่วงก่อนนอน เพื่อให้ระหว่างที่คุณกำลังหลับ จะเป็นช่วงที่ไฟเบอร์ดูดซึมเข้าร่างกาย สร้างใยอาหารทำให้อุจจาระมีน้ำหนัก และมีน้ำโอบอุ้มกำลังดี เมื่อคุณตื่นขึ้นจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ร่างกายพร้อมขับของเสียออกจากร่างกายพอดี ทำให้ช่วงเวลาที่เหมาะกับการทานไฟเบอร์ได้ดีที่สุดคือ ช่วงก่อนนอน
รวม 5 ผลไม้ไฟเบอร์เยอะ ขับถ่าย สร้างหุ่นสวย
ตามที่ได้กล่าวไปว่าหากต้องเลือกรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์ แนะนำให้รับประทานไฟเบอร์ธรรมชาติ หรือพวกผักผลไม้ที่เป็นแหล่งอุดมของไฟเบอร์ชั้นดี อีกทั้งยังมีวิตามิน และแร่ธาตุที่ส่งเสริมสุขภาพได้อีกด้วย สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกทานผลไม้ชนิดใด ในเนื้อหาส่วนนี้ได้รวบรวมผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงไว้เป็นทางเลือกให้กับคุณแล้ว
- เสาวรส
อาจทำให้หลายคนรู้สึกตกใจที่ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวนำอย่างเสาวรสเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงมากที่สุด ซึ่งในเสาวรสนั้นมีไฟเบอร์ 10 กรัม จัดได้ว่ามีไฟเบอร์สูง อีกทั้งยังมีวิตามินซีช่วยปรับให้ผิวขาวกระจ่างใส ใครที่มีปัญหาผิวสองสี หรือผิวคล้ำเสียจากการโดนแดด ควรหาโอกาสในการดื่มน้ำเสาวรส หรือมีเสาวรสติดห้องไว้ก็เป็นตัวช่วยที่ดูดีไม่น้อย
นอกจากจะมีวิตามินซีสูงแล้ว ผลไม้นี้ยังมีแมกนีเซียมสูง ประโยชน์ของแมกนีเซียมคือช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และไขมันในหลอดเลือด หากคุณกำลังไดเอทอยู่ นี่เป็นผลไม้ที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งออกกำลังกายเบิร์นไขมันออก ร่วมด้วยกับการดื่มน้ำเสาวรส ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น และเผาผลาญไขมันจากภายในเพิ่มเติมได้อีกด้วย
- อะโวคาโด
มาต่อกันที่อะโวคาโดที่มีปริมาณไฟเบอร์ไม่น้อยหน้าเสาวรส ปริมาณไฟเบอร์ที่พบได้ในอะโวคาโดนั้นอยู่ราว 6.7 กรัม ข้อดีหลัก ๆ ของอะโวคาโดที่ต้องพูดถึงคือ ทำให้อยู่ท้อง เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนักในช่วงนี้ อีกทั้งยังมีวิตามินอีที่ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยก่อนวัยอันควร และบูสสภาพผิวให้ชุ่มชื้นนุ่มเด้งเหมือนผิวเด็ก อาจจะไม่ใช่ผลไม้กระแสหลัก แต่ถือเป็นผลไม้ที่มีข้อดีหลากหลาย
นอกจากที่ได้กล่าวไปแล้วในผลอะโวคาโดยังมีกรดไขมันชนิดดีที่ช่วยทำให้คุณห่างไกลจากโรคหัวใจ, กรดโอเลอิกบำรุงระบบประสาท และสมองให้มีความจำที่ดียิ่งขึ้น หรือจะเป็นสารลูทีน ซีแซนทีนที่ช่วยฟื้นฟู และบำรุงดวงตา
- มะขาม
น้อยคนนักที่จะไม่เคยทานมะขาม เพราะนี่ถือเป็นพืชที่มีการแปรรูป และนำไปใส่ในเมนูอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้ง ๆ ที่เป็นพืชที่ทุกคนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่อาจจะไม่รู้ว่ามะขามมีปริมาณไฟเบอร์ถึง 5 กรัม พร้อมกับความสามารถในการออกฤทธิ์ที่ใกล้เคียงกันกับยาระบายอ่อน ๆ ด้วยสารเซนโนไซด์ นอกจากนี้แล้วที่บริเวณเปลือกมะขามยังมีส่วนในการออกฤทธิ์เพื่อต้านสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย ทำให้ริ้วรอยร่องเล็กสามารถตื้นขึ้นได้ ไกลจากปัญหาหน้าแก่ ด้านเนื้อมะขามมีสาร AHA ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะนี่มักเป็นส่วนผสมหลักในการขัดเซลล์เก่าที่ตายไปแล้ว ให้ผลัดออกไป เพื่อให้ผิวของคุณเรียบเนียน และขาวกระจ่างใสทั่วทั้งตัว
แค่มะขามชนิดเดียว แต่กลับมีจุดขายแทบทุกส่วนของฝัก ใครที่เดินผ่านตลาด และเจอมะขามถุงใหญ่ เชื่อว่าหลังจากที่คุณอ่านบทความชิ้นนี้ไปแล้ว จะรีบคว้ามะขามมารับประทานแทนขนมขบเคี้ยวกันอย่างแน่นอน
- ฝรั่ง
อีกหนึ่งผลไม้หาง่าย และเชื่อว่าทุกคนจะรู้ดีว่าฝรั่งเป็นแหล่งของกากใยอาหาร เพิ่มความคล่องในการขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น แต่นอกจากฝรั่งจะช่วยแก้ไขปัญหาท้องผูกได้แล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากต่อร่างกาย ทั้งช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรค และหากคุณมีแผลที่ท้อง ฝรั่งมีสารแทนนินที่ช่วยทำให้แผลนั้นสมานกันได้ด้วย หรือจะเป็นวิตามินซีที่คุณจะได้รับจากฝรั่งเรียกได้ว่ามีปริมาณที่สูงมาก ๆ วิตามินซีนี้ช่วยทำให้ผิวของคุณเปล่งปลั่ง และเสริมภูมิคุ้มกัน ใครที่ป่วยบ่อย หรือร่างกายติดหวัดได้ง่าย ๆ ขอแนะนำเลยว่าลองรับประทานฝรั่งอย่างต่อเนื่อง อาจช่วยทำให้ภูมิต้านทานกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
- กล้วย
ปิดท้ายกับหัวข้อผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงด้วยผลไม้ยอดนิยม หาซื้อได้ทั่วไป แต่ประโยชน์ไม่ธรรมดากับกล้วยนั้นเอง หลายคนน่าจะรู้ดีว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่มีกากอาหารสูงไม่แพ้ผลไม้ก่อนหน้า และยังเป็นพรีไบโอติกที่ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ กล้วยยังถูกจัดเป็นสมุนไพรที่มีความสามารถในการรักษาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แก้ไฟไหม้, ลดไข้ หรือจะเป็นลดอาการบาดเจ็บจากน้ำร้อนลวกก็เป็นสิ่งที่กล้วยสามารถทำได้ และอีกหนึ่งในประเด็นที่จะลืมไม่ได้คือ กล้วยมีสารโพแทสเซียม ช่วยขับโซเดียมได้ดี ปรับความดันในโลหิตให้คงที่ไม่มากหรือน้อยเกินไปได้
ทั้งหมดนี้เป็นเนื้อหาที่ได้พาทุกคนไปทำความรู้จักกับไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ที่คาดว่าจะทำให้คุณได้รู้จักกับไฟเบอร์ได้มากขึ้น และรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วไฟเบอร์มีอยู่ในธรรมชาติใกล้ตัวอย่างผัก และผลไม้ ในช่วงสุดท้ายได้มีโอกาสแนะนำ 5 ผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ให้คุณได้ลองไปปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพิ่มผัก และผลไม้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อจัดการกับปัญหาหน้าท้อง และอาการท้องผูกกัน
อ้างอิง:
WANT TO HELP YOUR BODY DETOX? MAKE SURE YOU’RE EATING THIS KEY NUTRIENT. https://www.humnutrition.com/blog/benefits-of-soluble-fiber-vs-insoluble-fiber/
16 High-Fiber Fruits That Can Boost Your Gut and Overall Health. https://www.goodrx.com/well-being/gut-health/high-fiber-fruits