ดีท็อกซ์กินตอนไหน ดีที่สุด ? เป็นคำถามที่หลายคนอาจจะสงสัยเพราะการดีท็อกซ์จะเป็นการชำระล้างลำไส้ให้สะอาดได้มากกว่าเดิม โดยในปัจจุบันคนเราต่างต้องเจอกับมลภาวะ และสารพิษต่าง ๆ อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มลพิษทางอากาศ หรือสารจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน ซึ่งในปัจจุบันนี้การค้นหายี่ห้อดีท็อกซ์ที่ดีที่สุดได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมการดีท็อกซ์ด้วยการรับประทานเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเสียมากกว่า
และด้วยเหตุนี้เองเราจึงจำเป็นต้องดีท็อกซ์เพื่อล้างสารพิษเหล่านี้ออกมาให้ได้มากที่สุด เพราะถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะมีการขับของเสียออกมาในทุก ๆ วันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ในบางครั้งร่างกายก็ไม่สามารถขับสารพิษต่าง ๆ ออกมาได้อย่างหมดจด ดังนั้นการดีท็อกซ์จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ร่างกายชำระล้างสิ่งแปลกปลอม หรือสารพิษออกจากลำไส้ได้หมดสิ้น
ดีท็อกซ์กินตอนไหน ไฟเบอร์กับดีท็อกซ์แตกต่างกันอย่างไร
ดีท็อกซ์กินตอนไหน และไฟเบอร์กับดีท็อกซ์เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง? ซึ่งจะต้องบอกก่อนเลยว่าไฟเบอร์ดีท็อกซ์ คือกากใยอาหารที่สามารถพบได้ในสารอาหารจำพวกผัก ผลไม้ หรือเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ ซึ่งประโยชน์ของไฟเบอร์จะมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายต่าง ๆ รวมทั้งสามารถกำจัดของเสียในลำไส้ได้อีกด้วย
เนื่องจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน จะมีปริมาณมากและมีอาหารที่หลากหลาย ในบางครั้งเราอาจจะรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ซึ่งกากใยบางอย่างอาจจะไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหาร หรือลำไส้ได้ ดังนั้นไฟเบอร์จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ขับกากใยอาหาร สารพิษ หรือของเสียต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้ออกมาได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง
ในส่วนของดีท็อกซ์จะเป็นการกำจัดสารพิษในลำไส้เช่นเดียวกัน รวมทั้งกำจัดสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ในลำไส้ หรือเกาะอยู่ที่ผนังลำไส้ อีกทั้งการดีท็อกซ์ยังเป็นตัวช่วยลดการสะสมของของเสียที่เป็นตัวทำลายสุขภาพเราได้อีกด้วย ซึ่งในส่วนของการดีท็อกซ์ลำไส้นั้น จะมีให้เลือกดีท็อกซ์หลากหลายวิธีด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็น การดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีกากใยอาหารสูง การดีท็อกซ์ด้วยการสวนลำไส้ การดีท็อกซ์ด้วยการอดอาหาร และการดีท็อกซ์ด้วยการรับประทานอาหารเสริมดีท็อกซ์ ที่ต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันมีให้เลือกรับประทานอย่างมากมาย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องท้องอืด ท้องเฟ้อ รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาในเรื่องระบบขับถ่ายด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นตัวช่วยปรับสมดุลของลำไส้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ทุกคนรู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบันไม่ได้มีจำหน่ายเฉพาะไฟเบอร์ หรือดีท็อกซ์อย่างเดียวเท่านั้น เพราะได้มีการผลิตไฟเบอร์ดีท็อกซ์ผสมกัน เพื่อช่วยให้ทุกคนเลือกรับประทานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ให้ประสิทธิภาพที่ดีต่อร่างกายได้มากที่สุด หากใครที่สงสัยว่าทำดีท็อกซ์ทุกวันได้ไหม มันสามารถรับประทานทุกวันได้ เพื่อเข้าไปช่วยระบบขับถ่ายของร่างกายได้ดีขึ้นกว่าเดิม
เพราะไฟเบอร์จะเป็นกากใยที่มีคุณสมบัติช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาหารท้องผูกบ่อย ๆ หรือไม่สามารถขับถ่ายได้เองในทุก ๆ วัน ในส่วนของ “ดีท็อกซ์” จะเป็นตัวช่วยขับของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกายให้ออกมาทั้งหมด ซึ่งเปรียบเสมือนการทำความสะอาดระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนารูปแบบไฟเบอร์และดีท็อกซ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการทำอาหารเสริมไฟเบอร์ดีท็อกซ์เข้าด้วยกัน เพื่อให้มีคุณสมบัติช่วยทั้งในเรื่องของระบบขับถ่าย ขจัดของเสียออกจากลำไส้ ทำความสะอาดลำไส้ได้มากกว่าเดิม ช่วยปรับสมดุลของลำไส้ให้ดียิ่งขึ้น และยังมีส่วนช่วยในการล้างสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย เพื่อให้ระบบในร่างกายของเราทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
และนอกจากนี้ประโยชน์ของไฟเบอร์ดีท็อกซ์ยังสามารถทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ระบบย่อยอาหารในร่างกายของเรา จะมีประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารได้มากกว่าเดิม และที่สำคัญการรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพราะของเสียต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ในลำไส้จะถูกขจัดออกไป ช่วยให้หน้าท้องแบนราบได้ไม่ยาก
ไขข้อสงสัย ดีท็อกซ์กินตอนไหน ดีที่สุด?
ดีท็อกซ์กินตอนไหน ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด? ในช่วงที่ผ่านมาหลาย ๆ คนตั้งคำถามในเรื่องการรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกลำไส้ ธรรมชาติกันอย่างมากมาย ทั้งในเรื่องของความแตกต่าง ประโยชน์ รวมทั้งในเรื่องของช่วงเวลาในการรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์ด้วยเช่นกัน เพราะไม่รู้ว่าควรรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์ในช่วงเวลาไหนจะดีที่สุด หรือให้ประโยชน์แก่ร่างกายของเราได้มากที่สุด ซึ่งไฟเบอร์ดีท็อกซ์นั้นจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่มีประสิทธิภาพช่วยในการล้างพิษในลำไส้ด้วยเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์
ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ล้วนมีประสิทธิภาพที่จะช่วยดูดซึมสารพิษในร่างกายได้ทั้งสิ้น และสารพิษต่าง ๆ จะถูกขับออกมาในรูปแบบของอุจจาระนั่นเอง ช่วยให้ลำไส้ของเราสะอาดได้มากกว่าเดิม ดังนั้นการรับประทานอาหารเสริมประเภทไฟเบอร์ดีท็อกซ์ จะเป็นตัวช่วยลดปริมาณสารพิษที่ตกค้าง หรือสะสมอยู่ในลำไส้ของเราได้ดีที่สุด
ในส่วนของช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์นั้น ความจริงแล้วจะสามารถรับประทานได้ทั้งวัน แต่หากต้องการให้ไฟเบอร์ดีท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีที่สุด คือ ควรรับประทานหลังอาหารมื้อค่ำ อาหารมื้อสุดท้ายของวัน หรือรับประทานก่อนนอนนั่นเอง
เพราะในช่วงเวลาของอาหารที่เรารับประทานเข้าไป กำลังเข้าสู่กระบวนการย่อยอาหารนั้น เมื่อเราดื่มไฟเบอร์ดีท็อกซ์เข้าไปในช่วงนี้ จะสามารถดึงอาหาร ของเสีย และสิ่งตกค้างต่าง ๆ ที่ติดอยู่ในร่างกายหรือลำไส้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญการรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์ในช่วงเวลานี้ จะช่วยให้เราสามารถขับถ่ายได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อระบบขับถ่ายที่ดีให้แก่ร่างกายได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้หากใครที่มีข้อสงสัยที่ว่า หากเราไม่รับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไฟเบอร์ดีท็อกซ์ แต่เลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ หรือกากใยสูง ๆ แทนได้หรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่าสามารถรับประทานทดแทนได้เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เราจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์หรือกากใยมากเพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ จึงจะมีประสิทธิภาพในการกวาดเอาสารพิษหรือสารตกค้างต่าง ๆ ที่อยู่ในลำไส้ออกมาให้หมด
โดยในส่วนนี้จะถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเลยทีเดียว เพราะต้องรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์และกากใยในปริมาณสูงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้หลาย ๆ คนเลือกรับประทานไฟเบอร์และกากใยที่เป็นอาหารเสริมเสียมากกว่า เพื่อให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์และใยอาหารที่มากเพียงพอ และสามารถเข้าไปดูดซึมสารพิษออกจากร่างกายได้มากที่สุด
ใครที่ควรรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์มากที่สุด?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไฟเบอร์ดีท็อกซ์นั้นจะเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาในเรื่องการขับถ่าย ท้องผูก หรือท้องอืด เพราะไฟเบอร์ดีท็อกซ์จะมีกากใยอาหารสูงเป็นอย่างมาก ดังนั้นจะเข้าไปช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี จึงทำให้หลายคนเชื่อว่ากินดีท็อกซ์ลดไขมันได้อีกด้วย ทั้งนี้คนที่ไม่เคยดีท็อกซ์ลำไส้มาก่อน และอาจจะมีภาวะเสี่ยงต่อการมีสิ่งตกค้างในลำไส้ ก็สามารถรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์ได้เช่นเดียวกัน และนอกจากนี้ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ลดพุง ธรรมชาติยังเหมาะสำหรับคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้ที่ไม่รับประทานผักหรือผลไม้เลย: รู้หรือไม่ว่าคนที่ไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้ จะมีความเสี่ยงของการเป็นโรคท้องผูกมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วใยอาหารจากผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสีจะมีความสำคัญต่อระบบทางเดินอาหารในร่างกายมากที่สุด เพราะอาหารเหล่านี้จะมีหน้าที่ในการเก็บกวาดเศษอาหารภายในลำไส้ ช่วยให้อุจจาระจับตัวเป็นก้อน และเพิ่มความสะดวกในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่กิจวัตรประจำวันของเราไม่สามารถเลี่ยงการรับประทานข้าวขัดสี อาหารกึ่งสำเร็จรูป รวมทั้งขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ที่ไม่มีไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ ดังนั้นจะส่งผลให้เกิดการขับถ่ายได้ยาก รวมทั้งการเป็นโรคท้องผูกได้นั่นเอง
- ผู้ที่ดื่มน้ำน้อย: น้ำเปล่าถือเป็นเครื่องดื่มที่มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายต้องการน้ำเพื่อเข้าไปที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งในเรื่องของระบบขับถ่ายด้วยเช่นกัน เพราะน้ำจะมีบทบาทที่สำคัญ ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว และเคลื่อนตัวออกจากลำไส้ได้ง่ายยิ่งขึ้น บางครั้งเราทำงานทั้งวันจนทำให้ลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ แถมยังต้องนั่งอยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศแห้ง ส่งผลให้ร่างกายของเราสูญเสียน้ำมากขึ้นกว่าเดิม และเมื่อร่างกายของเรามีปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมไปที่ระบบขับถ่ายได้ อุจจาระของเราจะแข็งตัว ทำให้ขับถ่ายได้ลำบากมากขึ้น
- ผู้ที่กลั้นอุจจาระบ่อย ๆ: ในปัจจุบันทุกคนใช้ชีวิตเพื่อแข่งกับเวลา เพราะในช่วงวัยเด็กถึงวัยรุ่นก็ต้องเร่งรีบเพื่อไปโรงเรียนให้ทัน ในช่วงวัยทำงานก็ยังต้องเร่งรีบ เพื่อเข้างานให้ทันเวลา จึงส่งผลให้เราไม่มีเวลาในการขับถ่ายมากเท่าไหร่นัก ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้อย่างถูกวิธี และเมื่อถึงเวลาที่ร่างกายต้องการขับถ่าย แต่ไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้ จะทำให้เราต้องกลั้นอุจจาระเอาไว้ และเมื่อเราเกิดการอั้นอุจจาระบ่อย ๆ จะส่งผลให้เส้นประสาทรอบทวารหนักเกิดอาการชินชาได้ง่าย เมื่อมีอุจจาระมากระตุ้นก็จะไม่ส่งสัญญาณให้เราอยากขับถ่าย ทำให้เกิดโรคท้องผูกเรื้อรังได้นั่นเอง
ทีนี้หลาย ๆ คนก็พอจะรู้แล้วว่า ดีท็อกซ์กินตอนไหน ดีที่สุด และต้องยอมรับเลยว่าการรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อร่างกายมากที่สุด เพราะร่างกายของเราจะไม่สามารถขับของเสีย หรือสารพิษต่าง ๆ ออกมาได้ทั้งหมด และเมื่อของเสียเข้าไปสะสมในลำไส้เป็นเวลานานจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาวได้นั่นเอง ดังนั้น การรับประทานไฟเบอร์ดีท็อกซ์จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกมาได้ทั้งหมด ช่วยให้ระบบขับถ่ายของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
อ้างอิง:
เทียบชัดไปเลย! “ไฟเบอร์” กับ “ดีท็อกซ์” ต่างกันยังไง ควรเลือกกินตัวไหนดี?. https://homchanosot.co.th/ไฟเบอร์กับดีท็อกซ์แตกต่างกันอย่างไร/#:~:text=หากให้สรุปความแตก,ที่ดีขึ้นกว่าเดิม