หอมจนผู้หลง ! กับ 9 อันดับ น้ำหอมยอดนิยม ผู้หญิงสุดรัญจวน กระชากใจหนุ่ม ๆ
น้ำหอมเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยเสริมความมั่นใจของใครหลายคนเลยทีเดียว แถมยังบ่งบอกความเป็นตัวตนบุคลิกของเราได้ด้วย ซึ่งมีทั้งกลิ่นหอมหวาน กลิ่นฟลอรัล กลิ่นสปอร์ต กลิ่นฟรุตตี้ หรือกลิ่นสะอาดสดชื่น เป็นการช่วยเพิ่มเสน่ห์ได้มากเลยทีเดียว อีกทั้งการฉีดน้ำหอมยังช่วยสร้างความประทับใจแรกให้คุณกับคนรอบข้างได้อีกด้วย วันนี้เรามี 9 อันดับ น้ำหอมยอดนิยม ของผู้หญิงที่โดนใจสาวๆ มากที่สุดมาแนะนำกัน ขอบอกเลยว่าแต่ละกลิ่นที่เราคัดมา หอมจนผู้ชายหลงต้องเหลียวหลังตามแน่นอนเลยเชียว
น้ำหอม Perfume, EDP, EDT, EDC และ EF ต่างกันอย่างไร?
ก่อนอื่นใครที่กำลังสงสัยหรือเคยสับสนว่าตัวอักษรย่อต่างๆ ที่อยู่ข้างหลังน้ำหอมนั้นคืออะไร เราจะช่วยไขข้อข้องใจและชวนมาหาคำตอบทั้งหมดด้วยกันก่อน
น้ำหอมนั้นแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งก็จะแบ่งออกตามระดับความเข้มข้นของน้ำหอมนั่นเอง
- Parfum (หรือ Perfume) ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมจะอยู่ที่ 15-40% เป็นระดับที่กลิ่นติดทนมากที่สุด เพราะว่าเป็นหัวน้ำหอม ฉีดแค่ครั้งเดียวกลิ่นติดอยู่ทั้งวัน ซึ่งกลิ่นที่ติดทนทานขนาดนี้ก็ทำให้น้ำหอมราคาสูงตามไปด้วย
- Eau de Parfum ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมจะอยู่ที่ 15-20% ระดับนี้จะได้รับความนิยมมากที่สุดเลย ราคาไม่แรงมาก ความติดทนจะอยู่ประมาณ 5-8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นความติดทนที่พอเหมาะพอดี กลิ่นไม่ฉุนหรือเข้มข้นเกินไป
- Eau de Toilette ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมจะอยู่ที่ 5-15% EDT เป็นน้ำหอมที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและพบได้บ่อยที่สุดในบรรดาน้ำหอมทุกประเภท จัดว่าเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของน้ำมันน้ำหอมที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
- Eau de Cologne ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมจะอยู่ที่ 2-4% หรือที่เราเรียกว่าโคโลญจน์ กลิ่นติดอยู่แค่ประมาณ 2 ชั่วโมง และราคาค่อนข้างถูก
- Eau Fraiche ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมจะอยู่ที่ 1-3% เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมน้อยที่สุด กลิ่นติดทนอยู่ได้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมเลือกซื้อเท่าไหร่
นอกจากความเข้มข้นของน้ำหอมแล้วยังมีช่วงของกลิ่น หรือ Notes ซึ่งเป็นช่วงเวลาของกลิ่นที่จะติดทนอยู่ในระยะช่วงเวลาๆ นั้น มีทั้งหมด 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 (Top Note) เป็นกลิ่นแรกที่เราจะได้กลิ่นหลังจากฉีด ประมาณ 15 นาทีแล้วจะจางหายไป เข้าสู่ในระยะความหอมถัดไป
ระยะที่ 2 (Meddle Notes) กลิ่นหลักของน้ำหอม หลักจากที่เราฉีดไปประมาณ 15-20 นาที กลิ่นนี้จะติดอยู่นานประมาณ 3-6 ชั่วโมง ฉะนั้นเวลาเลือกน้ำหอม ควรปล่อยเวลาไปสักพักแล้วค่อยเลือกหลังจากได้กลิ่นนี้แล้ว
ระยะที่ 3 (Base Notes) เป็นกลิ่นสุดท้ายของน้ำหอม กลิ่นจางๆ แต่อยู่ยาวติดกับเราได้นานเลยทีเดียว
ฉะนั้น ความต่างของน้ำหอมแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับปริมาณหัวเชื้อของน้ำหอมที่ผสมลงไป สาวๆ ก็เลือกใช้น้ำหอมที่ชอบตามความต้องการและตามโอกาสที่เหมาะสมกันได้เลย
10 อันดับน้ำหอมผู้หญิงสุดรัญจวน
ได้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับน้ำหอมกันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูน้ำหอมผู้หญิงที่นิยมมากที่สุด 10 กลิ่นกันเลยดีกว่าว่าตัวไหนจะฮิตโดนใจหรือมีกลิ่นไหนที่เป็นน้ำหอมขวดโปรดของคุณกันบ้างหรือเปล่า
1. Versace – Bright Crystal EDT
ประเดิมด้วยน้ำหอมผู้หญิงที่นิยมที่สุดสไตล์เวอซาเช่ ใครใช้แล้วต้องติดใจ มีส่วนผสมของผลไม้ให้ความรู้สึกสดชื่นและหอมหวาน เป็นกลิ่นฟรุตตี้ฟลอรัลที่สดชื่นอ่อนหวาน แต่ก็โดดเด่น เย้ายวนใจด้วยกลิ่นกรุ่นหอมสกัดจากผลทับทิม ส้มยูซุจากญี่ปุ่น และดอกไม้หลากชนิด อาทิ ดอกพิโอนี่ ดอกแม็กโนเลีย ดอกบัว กลิ่นอำพัน และปิดท้ายด้วยมักส์กลิ่นสะอาด สดชื่น เป็นกลิ่นที่ฉีดง่ายสบายๆ และใสๆ สมชื่อ Bright Crystal เหมาะกับผู้หญิงทุกวัย และใช้ได้กับทุกสถานการณ์
2. CHLOÉ – Signature EDP
น้ำหอมโบว์ครีมในตำนาน ซึ่งเป็นน้ำหอมยอดนิยมอันดับหนึ่งจากแบรนด์ Chloe น้ำหอมกลิ่นนี้ยังสื่อถึงผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและมีบุคลิกที่โดดเด่น จากกลิ่นดอกไม้นานาพันธ์ทั้งกุหลาบ, พิโอนี่, ฟรีเซีย ผสานกลิ่นฟรุตตี้จากลิ้นจี่ ส่วนกลิ่นสุดท้ายจะเป็นกลิ่นของอำพันและไม้โบราณเพื่อสร้างกลิ่นหอมที่น่าหลงใหล ฉีดแล้วทำให้รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น และเป็นน้ำหอมที่ติดทนค่อนข้างนาน และสามารถฉีดได้ในทุกโอกาส
3. GUCCI – Bloom Acqua di Fiori EDT
กลิ่นที่สาวๆ หลายคนชอบเพราะตัวนี้ก็เป็นกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงที่นิยมที่สุดเช่นกัน เป็นหนึ่งในน้ำหอมประเภท floral green ที่หอมเป็นธรรมชาติเหมือนบรรยากาศที่สงบ ชุ่มชื่น เรียบง่ายและงดงามหลังฝนตก จากกลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้สีขาวแซมพืชสีเขียว ซึ่งประกอบด้วยดอกซ่อนกลิ่น ดอกมะลิ และดอกสายน้ำผึ้ง ผสมผสานกับกลิ่นหอมอบอุ่นนุ่มละมุนของ Sandalwood และ Musk ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดใส เป็นกลิ่นหอมจากดอกไม้ที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นสาวสดใสสมวัย
4. Dior – Miss Dior Blooming Bouquet EDT
ใครใช้ก็ติดใจกับ Miss Dior Blooming Bouquet กลิ่นนี้จะชวนให้คุณนึกถึงความซุกซนแบบเจ้าหญิงแสนน่ารัก ใส่ชุดเดรสอยู่ท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ จากดอกกุหลาบและโบตั๋น สัมผัสได้ถึงกลิ่นดอกพีโอนีและกุหลาบจากบัลเกเรียอันนุ่มนวลและอ่อนโยน เพิ่มความสดชื่นด้วยกลิ่นมะกรูดคาลาเบรียน และปิดด้วยกลิ่นไวท์มัสก์อย่างลงตัว ดูเป็นผู้หญิงอ่อนหวานแต่หรูหราเย้ายวนในแบบ Dior
5. BYREDO – Blanche EDP
BYREDO แบรนด์น้ำหอมจากสวีเดนเป็น Luxury brand ที่ผลิตน้ำหอมที่มีคุณภาพ ทำกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และทุกคนสามารถใช้ได้แบบ Unisex ซึ่ง Blanche นั้นแปลว่าสีขาวในภาษาฝรั่งเศส มีความฟลอรัลที่ผสมกับกลิ่น Musk และ Sandalwood ที่สื่อถึงกลิ่นนี้ได้ดีมากเพราะเป็นกลิ่นหอมสะอาดที่สื่อถึงความอินโนเซนต์และบริสุทธิ์เปรียบเสมือนกับสีขาว เป็นกลิ่นหอมแบบคลาสสิกแต่ก็มีลักษณะเฉพาะตัว
6. YVES SAINT LAURENT – Libre EDP
น้ำหอมสำหรับผู้หญิงในตระกูลกลิ่นฟลอรัลที่ให้ความรู้สึกเท่และเซ็กซี่ กลิ่นตัวนี้จะค่อนข้างแน่น เป็นกลิ่นของดอกส้มที่หอมเซ็กซี่และกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ที่หอมเย็น ร้อนแรงด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของเมล็ดถั่วทองกาและกลิ่นหอมของอำพัน ปิดท้ายด้วยกลิ่นวานิลลา และมัสก์แสนคลาสสิก หลังฉีดจะให้ความรู้สึกเป็นผู้หญิงเท่ที่มีเสน่ห์ชวนลุ่มหลง และที่สำคัญเป็นกลิ่นที่ติดทนมาก
7. Tom Ford – White Suede EDP
น้ำหอมของ Tom Ford หอม สวย ดูแพงไม่เหมือนใคร White Suede เปิดตัวด้วยกลิ่นดอกไม้อย่าง Lily of valley, ดอกกุหลาบเบาๆ ตามด้วย Saffron และกลิ่นชา ส่วนกลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของ Suede, Sandalwood ผสมกับ Musk และ Amber มาบางๆ พอให้รู้สึกละมุนๆ แต่เจือไปด้วยความเซ็กซี่ มีเสน่ห์เย้ายวนภายใต้ความเรียบหรู เป็นกลิ่นที่มีหลากหลายมิติสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
8. Jo Malone – English Pear & Freesia Cologne
สาวๆ ส่วนมากที่เริ่มใช้น้ำหอมของ Jo Malone มักเริ่มด้วยกลิ่นนี้ เพราะ English Pear & Freesia มีความหอมแบบละมุนนุ่มนวลแต่แฝงด้วยความหวานสดใส น้ำหอมกลิ่นผลไม้และดอกไม้ที่มีความสมดุลมากเป็นพิเศษ เป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมมากแถมยังเป็นน้ำหอมกลิ่นขายดีของ Jo Malone ด้วย เปิดด้วยกลิ่นลูกแพร์ ตามมาด้วยกลิ่นกลางของฟรีเซีย ส่วนกลิ่นปิดท้ายคือกลิ่นของแพทชูลี่ แอมเบอร์และวู้ดดี้ เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะ สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมดอกไม้และใบไม้ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
9. CHANEL – N°5 L’eau EDT
CHANEL N°5 กลิ่นนี้ไม่แก่แล้วนะ เพราะ N°5 L’eau คือน้ำหอมฉบับปรับปรุงใหม่ ที่ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยกลิ่น Top Notes ของเลมอน แมนดาริน และส้ม กลิ่นของดอกกุหลาบผสานกลิ่นดอกมะลิบางเบาและดอกกระดังงา ด้วยความทันสมัยกว่าที่เคย เต็มไปด้วยกลิ่นของหญ้าแฝกและซีด้าร์ ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสัมผัสความอ่อนโยนของไวท์มัสก์ เป็นความเรียบง่ายแต่โดดเด่นเหมาะกับสาวๆ ที่มั่นใจ
9. GIORGIO ARMANI – Sì Passione EDP
น้ำหอมขวดแดงในตำนานของ GIORGIO ARMANI ตัวนี้เป็นกลิ่นน้ำหอมในคอลเลกชัน Sì กลิ่นฟลอรัลเข้มข้นและหรูหรา เป็นกลิ่นหอมที่เย้ายวน ชูกลิ่นด้วยแบล็คคอเรนท์และลูกแพร์ ตามมาจะเป็นกลิ่นของดอกมะลิและกุหลาบ ผสานด้วยกลิ่นวานิลลา มัสก์ และกลิ่นไม้หอมที่หอมสดชื่นมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นของกุหลาบ เป็นกลิ่นที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงที่เต็มเปี่ยมด้วยความหลงใหลและความเร่าร้อน และถือว่าเป็นน้ำหอมตัวฮิตที่สาวๆ หลายคนต่างโหวตให้เป็นกลิ่นที่เซ็กซี่มากที่สุดเลยก็ว่าได้
10 วิธีฉีดน้ำหอมให้ติดทนนานตลอดทั้งวัน
น้ำหอมช่วยเพิ่มความหอม และเพิ่มความมั่นใจในทุกๆ วัน แต่ฉีดแปบเดียวกลิ่นก็หายไปเสียแล้ว เราฉีดน้ำหอมจริงหรือเปล่าเนี่ย แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ลองมาดู 10 วิธีฉีดน้ำหอมให้ติดทนนานตลอดทั้งวันที่เรานำมาฝากกัน
1. ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม
ความเข้มข้นของระดับน้ำหอมจะช่วยให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้น อย่าง Parfum ก็จะเข้มข้นมากที่สุด และควรเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน ก็จะช่วยทำให้กลิ่นจางได้ช้าลง
2. ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร
หากฉีดหรือแต้มน้ำหอมตามจุดชีพจรต่างๆ ของร่างกายอย่างบริเวณข้อมือ ข้อพับ หรือซอกคอ จะทำให้กลิ่นของน้ำหอมฟุ้งกระจายได้ดีมากกว่าและทำให้ความหอมติดทนนานยิ่งขึ้น
3. ทาวาสลีนก่อนฉีดน้ำหอม
สาวๆ คนไหนผิวแห้งลองทาวาสลีนก่อนฉีดน้ำหอมดู โดยทาเฉพาะจุดต่างๆ บนร่างกาย ก่อนที่เราจะทำการฉีดความชุ่มชื่นจะช่วยให้น้ำหอมติดทนนาน
4. อาบน้ำก่อนการฉีดน้ำหอม
อยากตัวหอมก็ต้องดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายด้วยเช่นกัน จะฉีดน้ำหอมให้ตัวหอมเลยเป็นไปไม่ได้นะ ควรอาบน้ำให้เรียบร้อยเสียก่อนและเช็ดตัวให้แห้งก่อนทำการฉีดน้ำหอมกันนะ
5. เลือกครีมอาบน้ำและโลชั่นกลิ่นเดียวกัน
ลองเลือกใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำ โลชั่น บำรุงผิว และน้ำหอมที่เป็นกลิ่นเดียวกันทั้งหมด จะทำให้ความหอมเพิ่มขึ้นและกลิ่นยังหอมติดผิวทั้งเช้ายันเย็นอีกด้วย
6. ห้ามถูหลังฉีดน้ำหอม
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าฉีดน้ำหอมแล้วต้องถูเพื่อให้กลิ่นกระจาย แต่จริงๆ แล้วการถูนั้นยิ่งทำลายความหอมให้หมดไป ดังนั้นถ้ายังอยากให้ตัวหอมอย่าถูหลังฉีดเสร็จ ให้เปลี่ยนเป็นวิธีแต้มน้ำหอมตามจุดต่างๆ บนร่างกายแทน
7. ฉีดน้ำหอมใส่ผม
หลายคนคงแปลกใจกับวิธีฉีดน้ำหอมใส่ผม แต่สามารถทำได้จริง โดยที่ฉีดน้ำหอมให้ห่างจากเส้นผมประมาณ 6 นิ้ว หรือจะฉีดลงบนแปรงแล้วค่อยหวีให้ทั่ว จะทำให้กลิ่นติดหอมนานทั้งวัน หรือจะเลือกใช้ Fragrance hair spray ที่เป็นน้ำหอมสำหรับเส้นผมโดยเฉพาะเลยก็ได้เช่นกัน
8. พกน้ำหอมไว้ฉีดระหว่างวัน
การฉีดน้ำหอมระหว่างวันขึ้นก็อยู่กับประเภทของน้ำหอมที่คุณใช้ด้วย หากเป็นน้ำหอมประเภท EDT หรือ Cologne อาจจะต้องเตรียมน้ำหอมแบบพกพาไว้เติมความมั่นใจระหว่างวัน
9. พรมน้ำหอมขณะรีดผ้า
อีกทริคดีๆ โดยพรมน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าแล้วรีดทับลงไป จะทำให้กลิ่นน้ำหอมติดเสื้อผ้าที่ใส่ แต่ต้องดูด้วยว่าหากพรมลงไปเสื้อผ้าจะเสียหายหรือไม่ หรือฉีดแล้วจะติดเป็นคราบน้ำหอมด้วยมั้ย
10. น้ำหอมไม่ควรแช่ตู้เย็น
วิธีเก็บน้ำหอมที่ถูกต้อง คือ ไม่ต้องแช่ตู้เย็นเพราะอาจจะมีกลิ่นแปลกปลอมที่จะส่งผลให้น้ำหอมกลิ่นเพี้ยนได้ และควรเก็บในที่ห่างไกลจากแสงแดด เพราะอุณหภูมิและความชื้นที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้น้ำหอมเสื่อมสภาพได้ ที่สำคัญควรปิดฝาน้ำหอมทุกครั้งหลังใช้ เพราะขวดน้ำหอมจะโดนออกซิเจนและเกิดการออกซิไดซ์ ยิ่งได้ออกซิเจนมากกลิ่นก็จะเริ่มจางหายไป
น้ำหอมยอดนิยม นอกจากจะมีกลิ่นหอมติดกายตลอดทั้งวันแล้ว คนรอบข้างที่อยู่ใกล้ก็ได้กลิ่นของเราด้วย น้ำหอมจึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้หญิงเราได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งถ้าเราฉีดมากไป ฉีดเกินเบอร์ ก็อาจจะทำให้คนที่เดินผ่านฉุนหรือเหม็นเอาได้ ฉะนั้นจึงต้องรู้ทริคฉีดน้ำหอมดีๆ และใช้ให้ถูกต้องว่าควรฉีดตรงไหนให้ถูกจุด เพื่อความหอมจะได้ติดทนนานตลอดทั้งวันและส่งกลิ่นหอมให้คนข้างๆ หลงเสน่ห์ได้เลย
สำรวจโลกแห่งน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมละมุน
ในโลกที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมหลากหลาย, การเลือกน้ำหอมที่เหมาะสมสามารถเพิ่มเสน่ห์และความมั่นใจให้กับผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในวันทำงานที่เร่งรีบหรือในค่ำคืนพิเศษที่คุณต้องการเด่นเป็นสง่า ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจโลกแห่งน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมละมุน, ทรงพลัง และทำให้ทุกคนต้องหลงใหล!
แต่งหน้าให้เข้ากับน้ำหอมของคุณ: การเลือกกลิ่นน้ำหอมที่เหมาะกับบุคลิกเป็นสิ่งสำคัญ และการแต่งหน้าที่ลงตัวก็เช่นกัน ลองเริ่มต้นด้วยการแต่งหน้าแบบ “Smudgy eye” ที่เพิ่มความลึกลับและความน่าดึงดูดใจ หรืออาจจะเป็นลิปสติกสีอิฐสำหรับคืนที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก
เตรียมผิวให้พร้อมรับกลิ่นหอม: ผิวที่เรียบเนียนและมีสุขภาพดีจะช่วยเพิ่มความหอมของน้ำหอมให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ลองใช้7 รองพื้นคุมมันเพื่อเตรียมผิวหน้าให้พร้อมต้อนรับกลิ่นหอมที่คุณเลือก
ดูแลริมฝีปากเพื่อการยิ้มที่ดึงดูด: ริมฝีปากที่ชุ่มชื่นและน่าจูบเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ใช้ลิปแคร์แก้ริมฝีปากแห้งเพื่อให้ริมฝีปากของคุณนุ่มนวลและพร้อมสำหรับการทาลิปสติกที่เข้ากับน้ำหอมของคุณ
การเลือกน้ำหอมไม่ใช่แค่เรื่องของกลิ่นที่คุณชื่นชอบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างบุคลิกภาพและเสน่ห์ให้กับตัวคุณเอง ด้วยน้ำหอมที่ลงตัวและการแต่งหน้าที่สง่างาม คุณจะกลายเป็นจุดสนใจที่ไม่มีใครต้านทานได้!
อ้างอิง
รีวิว 8 น้ำหอมผู้หญิง 2022 น้ำหอมแบรนด์ดัง ติดทนนาน เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเอง :
https://thethaiger.com/th/news/537989/
13-ทริค-ฉีดน้ำหอมยังไงให้ปังสุด :
https://www.beautyintrend.com/13-ทริค-ฉีดน้ำหอมยังไงให้ปังสุด.atc?icd=e5814q
10 อันดับ น้ำหอมผู้หญิง ติดทนนาน ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 :
https://www.minipriza.com/น้ำหอมผู้หญิง-ติดทนนาน-ยี่ห้อไหนดี/
